|
1 |
เด็กแต่ละคนมีความโดดเด่น
และลักษณะเฉพาะที่ไม่เหมือนใคร
ตามกรรมพันธุ์และสิ่งแวดล้อม ที่เด็กได้รับมาแต่เกิด
ดังนั้น วิธีการเรียนรู้ และช่วงเวลาของพัฒนาการ
แต่ละขั้นตอนของเด็กแต่ละคน ย่อมแตกต่างกันออกไป |
|
2 |
การเรียนรู้ของเด็ก ควรดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง
โดยเริ่มจากสิ่งที่เด็กรู้และคุ้นเคยอยู่เดิม
นำไปสู่การค้นพบความรู้ใหม่ๆ |
|
3 |
เด็กเรียนรู้ได้ดีที่สุด ผ่านการทำกิจกรรม
ประสบการณ์ตรง การสำรวจ และการพูด
กิจกรรมมีรูปแบบที่หลากหลาย เป็นที่สนใจของเด็ก
เด็กสนุกสนานและพอใจกับการทำกิจกรรม
ที่เหมาะสมกับพัฒนาการของเด็กแต่ละคนในแต่ละช่วง
และช่วยส่งเสริมให้เด็กได้พัฒนาต่อไปอย่างก้าวหน้าในทุกด้าน
คือ ร่างกาย อารมณ์-จิตใจ สังคม และสติปัญญา
เด็กมีโอกาสได้พูด สนทนา แสดงความคิดเห็น คาดคะเน
วางแผน ฯลฯ โดยรู้ว่า ผู้อื่นรับฟัง
และสิ่งที่แสดงออกมานั้น
มีความหมายต่อการทำกิจกรรมและต่อผู้อื่น |
|
4 |
เด็กต้องมีประสบการณ์ในการได้รับความสำเร็จ
ทั้งในการทำกิจกรรม การเรียนรู้
และการปฏิบัติกิจวัตรประจำวัน การที่เด็กรู้ว่า
ตนประสบความสำเร็จ จะทำให้เด็กมีความมั่นใจในตนเอง
และเกิดความเต็มใจต้องการที่จะเรียนรู้ต่อไป |
|
5 |
เด็กต้องได้รับการช่วยเหลือให้สามารถควบคุมตนเอง
และสถานการณ์ได้ตามวัย
เพื่อให้เด็กมีความรู้สึกที่ดีต่อตนเอง และผู้อื่น
รวมทั้งมีทักษะในการอยู่และทำงานร่วมกับผู้อื่น |
|
6 |
เด็กจะพัฒนาไปได้ด้วยดีในทุกด้าน ทั้งร่างกาย อารมณ์
สังคม สติปัญญา และมีคุณธรรม รักการเรียนรู้
ผู้ใหญ่ต้องสนับสนุนและมีปฏิสัมพันธ์กับเด็ก
โดยการจัดสิ่งแวดล้อม กิจกรรม บริบท ประสบการณ์ตรง
และใช้ภาษาอย่างเหมาะสม เพื่อพัฒนาการเรียนรู้
และทักษะต่างๆ ของเด็กอย่างต่อเนื่อง |